สัปดาห์ที่ 3
เรียนเรื่อง ทฤษฎ๊ที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
พัฒนาการบุคลิกภาพของคนขึ้นอยู่กับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานทางด้านสรีระ
หรือที่เขาเรียกว่าแรงขับโดยสัญชาติญาณแรงขับโดยสัญชาติญาณ แรงขับ ดังกล่าวมี 3 ประเภท ได้แก่
แรงขับทางเพศหรือความต้องการตอบสนองทางเพศ (libido) แรงขับหรือความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่
(life-preserving
drive) และแรงขับหรือความต้องการที่จะแสดงความก้าวร้าว
(aggressive
drive)
โครงสร้างบุคลิกภาพ
อิด
(Id) หมายถึง
พลังหรือแรงผลักที่มีมาแต่กำเนิด เป็นสันดานดิบของมนุษย์ที่มีแต่ความต้องการสนองสนองแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด
ฟรอยด์เห็นว่าแรงผลักชนิดนี้มีอยู่ในทารก
อีโก้
(Ego) เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบุคลิกภาพที่ได้มีการคิดรวบรวมข้อมูลต่างๆ
และมีการวางแผน การรู้จักรอคอย ร้องขอหรืออื่น
ๆ เพื่อให้ได้รับการตอบสนองในสิ่งที่ต้องการ
ซุปเปอร์อีโก้
(Superego)
เป็นส่วนของบุคลิกภาพที่คอยควบคุมหรือปรับการแสดงออกของอิดและอีโก้ให้สอดคล้องกับเหตุผลความถูกผิด
คุณธรรมหรือจริยธรรม
โครงสร้างด้านบุคลิกภาพ
ขั้นที่ 1 ขั้นปาก (Oral
Stages) อายุแรกเกิด –18
เดือน
ขั้นที่
2 ขั้นทวารหนัก (Anal
Stage) เป็นระยะพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กวัย
2 –
3 ปี
ขั้นที่
3 อวัยวะเพศขั้นต้น (Phallic
Stage) เป็นระยะพัฒนาการบุคลิกภาพของวัย
3 – 5 ปี
ขั้นที่
4 ขั้นพัก/ขั้นแฝง (Latency
Stage) เป็นระยะพัฒนาบุคลิกภาพของวัย
5 – 12 ปี
ขั้นที่
5
ขั้นอวัยวะเพศ (Genital
Stage) เป็นระยะสนใจเพศตรงข้าม
วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว
12 ปี
ขึ้นไป
ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตสังคมของอีริคสัน
ทฤษฎีพัฒนาการด้านจิตสังคมของอีริคสัน
วัยเด็กเป็นวัยที่สำคัญและพร้อมเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัว
หากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กดี
เด็กจะมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อมั่นในตนเองในทางตรงกันข้ามหากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมไม่ดีไม่เอื้อหรือส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของเด็ก
เด็กจะกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
ไม่ไว้วางใจผู้อื่น ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
“ทฤษฎีพัฒนาการทางบุคลิกภาพของอีริคสัน
ได้แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการพัฒนา
บุคลิกภาพของบุคคล ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยสูงอายุทำให้เป็นแนวทางสำ คัญในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก
โดยเฉพาะในวัยทารก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของ
พัฒนาการในวัยต่อไป…”
ทฤษฎีวุฒิภาวะของกีเซล
“วุฒิภาวะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างมีระเบียบ
โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเร้าภายนอก” กีเซลเชื่อว่าพฤติกรรมของเด็กจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยา
ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมขึ้น การฝึกฝนหรือการเรียนรู้ไม่ว่าลักษณะใดก็ตาม
จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ
ถ้าหากร่างกายยังไม่พร้อมหรือยังไม่มีวุฒิภาวะ
ทฤษฎีพัฒนาการด้านการรู้คิดของเพียเจท์
พัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กและพัฒนาการทางสติปัญญา
ตามแนวความคิดของเพียเจท์
ได้อธิบายถึงพัฒนาการทางความคิดและสติปัญญาในความเห็นของเขาว่า
บุคคลสามารถคิด ดัดแปลงความคิดและแสดงความคิดของตนออกมาได้
ย่อมเป็นผลมาจากขบวนการปรับเข้าสู่โครงสร้าง
(assimilation)
และการจัดปรับขยายโครงสร้าง
(accommodation)
โดยผลของการทำงานดังกล่าวจะเกิดเป็นโครงสร้างขึ้น
(schema)
ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
โคลเบอร์กเห็นด้วยว่าพัฒนาการทางการคิดเป็นพื้นฐานของพัฒนาการทางจริยธรรมเช่นเดียวกับเพียเจท์ซึ่งพัฒนาการทางจริยธรรมของบุคคลจะมีลำ
ดับขั้นเช่นเดียวกับพัฒนาการด้านอื่น
ๆ และมีแนวคิดว่าพัฒนาการทางจริยธรรมของแต่ละบุคคล
จะแตกต่างกันและมีระยะเวลาของการพัฒนาในแต่ละขั้นต่างกัน
ทฤษฎีพัฒนาการทางความคิดความเข้าใจของบรุนเนอร์
เจอโรม
บรุนเนอร์ (Jerome.S.Bruner)
ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับพัฒนาการทางการคิดและใช้เหตุผล
(Cognitive)
โดยอาศัยแนวคิดของเพียเจท์เป็นหลัก
และอาจารย์ได้สั่งงานกลุ่ม นำเสนอ ทฤษฎี
ผู้บันทึกอนุทิน
นางสาวณัฎฐา กล้าการนา
สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย